Loading...

ไข้หัดสุนัข ขึ้นสมอง-วิธีพาน้องหมาไปฉี่และอึ หัดหมาน้อยยยากกกไหมมมมาดู🌤

1:#มหัศจรรย์พันธุ์แฝก

ไข้หัดสุนัข ขึ้นสมอง_

2:ชิคชิววววว…

ไข้หัดสุนัข ขึ้นสมอง_

3/3วิเคราะห์ใบหน้า:ดูรายงานเกี่ยวกับรูปหน้าของคุณ

3:🐶Vocab เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

🐶Vocabเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง

🐶ทั้งคำนามและกริยา

4:วิธีฝึกให้ "หมานิ่ง" เมื่อเจอคนแปลกหน้า‼️

วิธีฝึกให้"หมานิ่ง"เมื่อเจอคนแปลกหน้า

สั่งให้น้องหมาอยู่ที่ท่านั่ง

โดยใช้คำสั่ง"นั่ง"

ชมเค้าทุกครั้งเมื่อทำถูก

ถ้าเค้าไม่อยู่ในคำสั่งให้เราสั่ง"นั่ง"อีกรอบ

จนกว่า…เค้าจะนั่งตามคำสั่งได้

และที่สำคัญ!!ต้องชมเมื่อเค้าทำถูกต้อง

หมั่นฝึกบ่อยๆน้องหมาจะนิ่งและรู้จักคอย

ไม่เห่าหรือตื่นเต้นเกินไปเวลาเจอคนแปลกหน้า

เชอรี่เป็นกำลังใจ🥰ให้ทุกคนที่กำลังเลี้ยงน้องหมา

และตั้งใจฝึกให้เค้าเป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่ง

เพื่อเติบโตเป็นน้องหมาที่ดีในอนาคตนะคะ^^

5:อย่าโทษว่า…หมาโง่ 🐶 ถ้ายังไม่ได้ฝึก

หลายคนอาจเคยได้ยินมีคนพูดว่า…

หมาตัวนี้🐕ฝึกไม่ได้หรอกเพราะว่ามัน"โง่"

เชอรี่อยากให้ทุกคนมองในอีกมุมนึง…

เราอยากให้น้องหมาเป็นอะไร?

เราต้องฝึกสิ่งนั้นให้น้องหมาก่อน

เพราะฉะนั้น…เราควรฝึกในทุกๆอย่าง

ที่เราอยากให้น้องหมาเป็น

น้องหมาก็เหมือนกับ…เด็กคนนึง

ที่เค้าไม่เข้าใจว่าอะไรถูกหรือผิด

หมาไม่เข้าใจภาษาคน

เราไม่ควรคาดหวังผลลัพธ์ตั้งแต่ช่วงแรกที่ฝึก

เราต้องฝึกสอนให้เค้าเข้าใจก่อน

ว่าเราอยากให้เค้าทำอะไร?

เช่นคำสั่ง"ขอมือ"

หลายคนยื่นมือให้น้องหมาและพูดว่า…ขอมือ

บางทีเค้ายังไม่เข้าใจหรอกค่ะ

เพราะเรายังไม่ได้สอน

เราต้องทำให้น้องหมาเข้าใจในคำสั่งที่ต้องการ

ที่สำคัญ‼️การให้ขนมหรือรางวัล

ควรให้เฉพาะในตอนที่เค้าทำตามคำสั่งถูกต้องเท่านั้น

เพื่อย้ำให้น้องหมาเข้าใจว่าเค้าทำถูกแล้ว

🐾วิธีฝึกคำสั่ง"ขอมือ"

1.พูดว่า"ขอมือ"

2.หยิบเท้าน้องหมาขึ้นในมือเรา

3.ให้ขนมหรือรางวัล

หมาจะเชื่อมโยงเสียงพูด+ท่าทาง+รางวัล

การสื่อสารคำสั่งให้ถูกจะทำให้ฝึกหมาง่ายขึ้น

อย่าโทษว่า…หมาโง่หรือไม่ฉลาด

แต่เป็นเราต่างหากต้องโทษตัวเอง

ที่ยังไม่ได้ฝึกเค้าให้เป็นอย่างที่ต้องการ

6:วิธีพาน้องหมาไปฉี่และอึ หัดหมาน้อยยยากกกไหมมมมาดู🌤

1.ให้คุณสังเกตว่าน้องหมาของคุณชอบฉี่ที่ไหนหรือจุดไหน

2.ให้คุณเอากระดาษทิชชูไปซับฉี่มาให้ชุ่มแล้วเอาแผ่นรองซับฉี่หรือถาดรองฉี่ไปวางไว้ที่จุดหรือตำแหน่งที่น้องหมาชอบฉี่ประจำเช่นชอบฉี่5จุดก็ให้วางกระดาษซับฉี่/ถาดรองฉี่5จุดนั้นแล้วเอาฉี่ที่กระดาษทิชชูไปป้ายไว้ทุกถาดหรือทุกกระดาษรองฉี่

3.ให้ทิ้งกระดาษรองซับฉี่/ถาดรองฉี่ไว้แบบนั้นโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นรองซับถี่มากนักหรือล้างถาดฉี่ประมาณ1ครั้งต่อสัปดาห์

4.เมื่อน้องหมาเริ่มรู้จักเรียนรู้ที่จะฉี่บนแผ่นรองหรือถาดฉี่ให้ลดจำนวนตำแหน่งลงเช่นเคยวางไว้5จุดให้ลดลงเหลือ3-2และสุดท้ายให้เหลือเพียงแค่1หรือ2ที่เท่านั้น

5.เมื่อน้องหมารู้จักแล้วว่าต้องฉี่บนถาดแต่ยังดื้อแอบฉี่ข้างนอกอยู่ให้วิ่งเข้าไปตีเบาๆที่ก้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดุว่า‪"ไม่"‬หรือ"อย่า"‬จากนั้นให้อุ้มน้องหมาไปวางไว้บนถาดฉี่(ให้ตีตอนนี้กำลังฉี่หรืออึเลยนะคะน้องหมาจะได้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำอยู่คือผิดอย่ารอให้เขาฉี่เสร็จหรืออึเสร็จนะคะ)ให้ทำแบบนี้ทุกครั้งอย่าใจอ่อนหรือสงสารเด็ดขาดเพราะนี่คือการฝึกค่ะ

6.ถ้าคุณอยากให้น้องหมาเข้าห้องน้ำนอกบ้านให้เอาถาดฉี่ที่น้องเคยฉี่เอาไปไว้นอกบ้านแล้วปล่อยน้องหมาให้ฉี่เป็นเวลาสิ่งสำคัญคือคุณต้องเป็นคนชอบสังเกตว่าลูกชอบปวดฉี่ตอนไหนอาการปวดฉี่ปวดอึเป็นยังไงหมาแต่ละบ้านมีอาการและเวลาการฉี่ที่ไม่เหมือนกันค่ะ

7:เคล็ดลับ!! 🦮🦮 จูงหมา 2 ตัว พร้อมกัน!!

🐶วิธีเริ่มฝึกแบบง่ายๆ

1️⃣ประเมินหมาของตัวเองแต่ละตัวตัวไหนเดินช้าตัวไหนเดินไว

2️⃣ปรับระยะสายจูงให้พอดีปรับเพื่อให้เราและน้องหมาเดินได้สะดวก

3️⃣จับสายจูงคนละมือ(1ตัว/1มือเรา)ตัวไหนเดินไวเราจะได้ดึงง่าย

4️⃣ใช้มืออีกข้างดึงสายจูตัวที่เดินเร็วกว่า

5️⃣กระตุ้นให้ตัวเดินช้าให้เดินเร็วขึ้นเช่นเรียกชื่อและพูดคำว่า"เร็วๆ"

6️⃣ช่วงสุนัขฉี่ปล่อยอิสระได้เลยแต่มือยังคงจับสายจูงไว้

การฝึกเดินให้สุนัขเชื่อฟังกับ"สายจููง"

สำคัญในชีวิตประจำวันมาก

🔸สุนัขจะคุ้นเคยกับสายจูงเวลาเดิน

🔸ทำให้เค้าเรียนรู้ที่จะไม่ดึงสายจูงแรงจนเกินไป

🔸แนะนำให้ฝึกสุนัขเดินกับสายจูงทุกวัน

7️⃣ฝึกเดินด้วยสายจูงทีละตัวก่อนจูงพร้อมกัน2ตัว

🔸ฝึกให้สุนัขเดินแบบใช้สายจูงทีละตัวให้เค้าคุ้นชินให้ได้

🔸เวลาที่เราเอาน้องหมา2ตัวมาเดินพร้อมกันจะทำให้ง่ายขึ้น

8:💉วันฉีดวัคซีนของน้อง💉 😬🍼แทนคุณ🍼😬

ไข้หัดสุนัข ขึ้นสมอง_

💉วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กแรกเกิด-12ปีที่พ่อแม่ต้องรู้💉

 การสร้างเกราะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆให้ลูกน้อยด้วยการฉีดวัคซีนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะวัคซีนจะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทานและปกป้องลูกน้อยของคุณจากการเจ็บป่วยต่างๆได้เด็กทุกคนควรได้รับวัคซีนตั้งแต่แรกเกิดคุณแม่สามารถทราบได้จากกุมารแพทย์ว่าลูกควรได้รับวัคซีนพื้นฐานหรือวัคซีนจำเป็นเมื่อใดชนิดใดบ้างประกอบกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ในปัจจุบันก้าวหน้าขึ้นวัคซีนสำหรับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจึงมีมากขึ้นตามไปด้วยโดยเฉพาะวัคซีนเสริมเพื่อให้เด็กมีสุขภาพที่แข็งแรงยิ่งๆขึ้นดังนี้

วัคซีนเด็กพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับลูกน้อย

วัคซีนขั้นพื้นฐานคือวัคซีนจำเป็นที่เด็กทุกคนควรจะได้รับตามคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย2561ตามนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กไทยในแต่ละช่วงวัยดังนี้

วัคซีนวัณโรค(BCG)จะฉีดเมื่อแรกคลอดส่วนมากฉีดที่โรงพยาบาลก่อนกลับบ้านบริเวณที่ไหล่ซ้ายหรือสะโพก

วัคซีนตับอักเสบบี(HBV) ควรฉีดตั้งแต่แรกเกิดและ1เดือน6เดือนตามลำดับ

วัคซีนคอตีบ-บาดทะยัก-ไอกรน(DPT) ควรฉีดตามช่วงอายุตั้งแต่2,4และ6เดือนและฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ1ปี6เดือน,4-6ปีและ11-12ปี(ฉีดเฉพาะบาดทะยัก-คอตีบ)

วัคซีนโปลิโอ มีด้วยกัน2ชนิดคือชนิดกินและชนิดฉีดควรให้ตามช่วงอายุตั้งแต่2,4,6เดือน,1ปี6เดือนและ2ปีครึ่งตามลำดับ

วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม(MMR)/วัคซีนไข้สมองอักเสบเจอี(JE) ควรฉีดตามช่วงอายุคือ1ปีและ2ปี6เดือน

วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดในเด็กปีละครั้งตั้งแต่อายุ6เดือนถึง18ปีสำหรับเด็กในปีแรกฉีด2เข็มและห่างกัน4สัปดาห์

วัคซีนเอชพีวี(HPV) เป็นวัคซีนที่ช่วยป้องกันการติดเชื้อเอชพีวีสาเหตุสำคัญของมะเร็งปากมดลูกโดยสามารถป้องกันได้ร้อยละ70-90ชนิด2สายพันธุ์เฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้นและชนิด4สายพันธุ์จะเพิ่มป้องกันหูดอวัยวะเพศได้ด้วยใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายช่วงวัยที่เหมาะสมที่แนะนำคือ9ปีขึ้นไป

วัคซีนเสริมเพิ่มภูมิต้านทานโรคอื่นๆ

 เพื่อให้เด็กมีสุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้นวัคซีนเสริมหรือวัคซีนทางเลือกจึงมีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคข้อดีของวัคซีนเสริมคือมีวัคซีนชนิดรวมฉีดเข็มเดียวแทนการแยกฉีดหลายเข็มลูกน้อยของคุณจึงเจ็บตัวน้อยครั้งและคุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปโรงพยาบาลบ่อยๆวัคซีนเสริมที่แนะนำดังนี้

วัคซีนโรต้า มีด้วยกัน2ชนิดคือMonovalent(Human)ให้กิน2ครั้งเมื่ออายุประมาณ2และ4เดือนและชนิดpentavalent(Bovine-Human)ให้กิน3ครั้งเมื่ออายุประมาณ2,4,6เดือน

วัคซีนนิวโมคอคคัส ป้องกันปอดอักเสบเยื้อหุ้มสมองอักเสบ

-PCVฉีดช่วงอายุ246เดือนและกระตุ้น12-15เดือน-PS23ฉีดช่วงอายุ2ปีขึ้นไป

วัคซีนฮิบ(Haemophilusinfluenzaetypeb) ควรฉีดตามช่วงอายุตั้งแต่2,4และ6เดือนและฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีกครั้งในช่วงอายุ1ปี6เดือน

วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส ควรฉีดในเด็กตามช่วงอายุตั้งแต่12-18เดือนและ4-6ปีตามลำดับรวมทั้งหมด2เข็ม

วัคซีนตับอักเสบเอ ฉีดช่วงอายุ1ปีขึ้นไปและเข็มที่2ห่างกัน6-12เดือน

วัคซีนไข้เลือดออก ฉีดช่วงอายุ9ปีขึ้นไปฉีด3เข็มเดือนที่0,6,12ในผู้ที่เคยมีการติดเชื้อมาก่อน

 การปฏิบัติตัวสำหรับการรับวัคซีน

ควรนำสมุดบันทึกวัคซีนมาด้วยทุกครั้ง

ไม่ควรรับวัคซีนขณะที่มีไข้สูงหรือเจ็บป่วยเฉียบพลันยกเว้นเป็นหวัดท้องเสียโดยไม่มีไข้สามารถรับวัคซีนได้

หลังรับวัคซีนควรอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อย30นาทีเพื่อดูปฏิกิริยาแพ้ยา

หากเคยฉีดยาแล้วมีอาการแพ้ยาแพ้อาหารเช่นมีอาการแพ้ไข่แบบรุนแรงกรุณาแจ้งกุมารแพทย์หรือพยาบาล

♥️แทนคุณ♥️

-->